Monday, December 2, 2013

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ลดดอกเบี้ย



ผู้กู้บ้านเตรียมเฮ บอร์ด ธอส.ประชุมลดดอกเบี้ยตาม กนง. หวังลดภาระการผ่อนค่างวดช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ยอมรับจะส่งผลดีต่อฐานะของธนาคารด้วยคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น



นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ธนาคารเพื่อพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งดอกเบี้ยเงินกู้และ เงินฝาก เพราะธนาคารของรัฐได้หารือร่วมกันแล้ว เห็นว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลงหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ซึ่งจะช่วยลดภาระให้แก่ผู้กูในช่วงท้ายปีประกอบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง น่าจะเป็นผลดีกับลูกค้าโดยที่ไม่กระทบต้นทุนของธนาคาร



การปรับลดดอกเบี้ยสินเชื่อลงยังจะส่งผลดีต่อฐานะของธนาคารด้วย เพราะคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น จากภาระผ่อนชำระที่ลดลง ซึ่งจะช่วยให้สามารถ ลดระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ได้ หลังจากที่ธนาคารสามารถลดเอ็นพีแอลลงเหลือ 6.71% คิดเป็น 48,506 ล้านบาทลดลงถึง 10% ด้วยการขายเอ็นพีแอล 8,114 ล้านบาท ให้แก่บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.)



สำหรับเป้าหมายสินเชื่อในปี 2557 ตั้งเป้าไว้ที่ 1.3 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 จะขยายตัว 8-10% และสินเชื่อ ที่อยู่อาศัยรวมจะขยายตัว 5% ซึ่ง ธอส.ก็ตั้งเป้ามากกว่าระบบรวมเล็กน้อย โดยตั้งเป้าที่จะขยายไปยังภูมิภาคมากขึ้น จากความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็น แนวเชื่อมต่อกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (เออีซี)



"ช่วงที่ผ่านมา สินเชื่อในเขต กทม. และปริมณฑลยังขยายตัวไม่มากเท่าสินเชื่อ ในเขตภูมิภาค เนื่องจากการขยายตัวของ หัวเมืองใหญ่ในเขตชายแดนที่เติบโตตามการขยายตัวของการค้าในเขตเออีซี และการ คาดการณ์ว่าเมืองจะเจริญตามแนวก่อสร้าง เส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง" นางอังคณากล่าวและว่า ปัจจุบันสินเชื่อในเขตภูมิภาคมีสัดส่วนถึง 60% ขณะที่สินเชือ กทม.มีสัดส่วน 40%



ส่วนเหตุการณ์ไม่สงบใน กทม.ขณะนี้ จะไม่กระทบกับการปล่อยสินเชื่อมากนัก เพราะธนาคารก็เน้นปล่อยสินเชื่อในต่างจังหวัดอยู่แล้ว โดยเฉพาะภาคอีสานและตะวันออก ที่อสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตได้ดี


ที่มา : REIC [02 12 13]

Thursday, September 19, 2013

Key Economic Indicators : Asia [Thailand]



Thailand


As the second-largest economy within ASEAN, the outlook for Thailand is bright. Described by the World Bank as “one of the great development success stories” for its progress in social and economic development, the country remains on an upward trajectory.



Source : Raimon Land

Thursday, August 22, 2013

AEC กับ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (AEC and Real Estate Investment)




          เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจในการลงทุนของผู้ประกอบการที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนประเทศต่างๆในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN) พิจารณาจากข้อมูลตารางข้างต้นแล้วประเทศที่น่าลงทุนที่สุด น่าจะเป็นประเทศไทยนะครับ ด้วยคำว่า การถือครอง นี่มันเป็นปัจจัยดึงดูดสำคัญในการลงทุนระยะยาวมากๆ 
          สำหรับนักลงทุนไทยที่มองหาประเทศลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างแดน คือ เวียดนาม และ ลาว   สิ่งที่ต้องระวัง คือ กฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยส่วนตัวเชื่อว่าแต่ละประเทศจะมีกฎหมายที่แตกต่างกันออกไป ดูอย่างประเทศไทยยังมีผู้ประกอบการรายใหญ่ยังพลาดให้กับกฎหมายควบคุมอาคารของไทยจนส่งผลต่อการก่อสร้าง ดังนั้นผู้ประกอบการที่จะลงทุนใน AEC จึงควรเพิ่มความระมัดระวังเป็น 2 เท่า




ที่มา : Agency for Real Estate Affairs [AREA]

Friday, August 9, 2013

โครงการ NYE by Sansiri BTS วงเวียนใหญ่



ข้อมูลโครงการ

NYE by Sansiri ตั้งอยู่ถนนกรุงธนบุรี เขตคลองสาน ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีวงเวียนใหญ่ 150 เมตร เจ้าของโครงการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) 

พื้นที่โครงการ 3-2-32 ไร่ โครงการเป็นตึกสูง 30 ชั้น 2 อาคาร จำนวนทั้งหมด 636 ยูนิต มีที่จอดรถให้ประมาณ 50% ส่วนกลางแบ่งเป็น 2 อาคารอยู่ชั้น 7 มีห้องสมุด สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และสวนพักผ่อน แบบห้องมี 1 ห้องนอนขนาด 30-43 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 59-68 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน Duplex ขนาด 63-64 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2,990,000 บาท หรือ 100,000 บาทต่อตารางเมตร (ราคาเดือนกุมภาพันธ์ 2556)


Price (ราคา) 

โครงการคอนโดเปิดใหม่ ราคา 100,000 บาทต่อตารางเมตรใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสที่เปิดใช้งานแล้วเพียง 150 เมตร ถือว่าไม่แพงครับน่าสนใจมากทีเดียว เทียบกับคู่แข่งที่ตั้งในทำเลเดียวกัน ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว 

Location (ทำเลที่ตั้ง) 

ใกล้สถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่เพียง 150 เมตรเป็นจุดขายสำคัญสำหรับโครงการ NYE วงเวียนใหญ่ นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ถนนกรุงธนบุรีสะดวกสำหรับผู้ใช้รถส่วนตัววิ่งไปราชพฤกษ์ก็สะดวก เข้าตัวเมืองถนนสาทรก็ง่ายนิดเดียว อีกอย่างแนวโน้มการพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้มีมากทีเดียวทั้งโครงการ Community mall ของเสนาฯ โครงการ Skywalk ทางเชื่อมต่อสถานีวงเวียนใหญ่ แล้วพื้นที่โดยรอบยังประกอบไปด้วยอาคารสำนักงานมากมาย 

Project and Design (รูปแบบโครงการ และการออกแบบ) 

ตัวอย่างอาคารใช้ Concept “Gold” เป็นโครงการระดับบนของแสนสิริ ออกแบบได้สวยงาม ยิ่งชั้นสูงๆขึ้นไปจะยิ่งมีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะจำนวนยูนิตต่อชั้นน้อยลง แน่นอนว่าราคาสูงขึ้น สำหรับแบบห้องส่วนใหญ่เป็น 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร ประตูมี Digital Door Lock ของ Yale แอร์ฝังฝ้า Counter Top ครัวเป็นแกรนิตสีดำ พื้นห้องครัวเป็นแกรนิตโต้ ห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นลามิเนต ตรงระเบียงมีที่วางคอมฯแอร์ให้ ระแนงไม้กั้นเรียบร้อย รับวิวเต็มที่ ด้วยขนาดที่เป็นภาวะน่าสบายเหมาะกับการพักผ่อน และอยู่อาศัยอย่างแท้จริง ประกอบกับวัสดุคุณภาพแล้วทำให้ชีวิตดูดีมีระดับขึ้นมาทันที 

Facilities (ส่วนกลาง/สิ่งอำนวยความสะดวก) 

แสนสิริโครงการนี้เน้นสระขนาดใหญ่ และสวนส่วนกลางหลักๆอยู่ชั้น 7 ยังมีส่วนกลางกระจายไปอยู่ตามชั้นต่างๆอีก เช่นชั้น 19 และชั้นบนสุดแต่เป็นสวนขนาดย่อมน่าสนใจดีครับ 



My Note 

แนะนำซื้อเพื่ออยู่อาศัยครับ ทำเลดี ราคาไม่สูง การออกแบบใช้ Green Architect Vertical Garden ตั้งแต่ทางเข้าโครงการ สามารถเลือกได้ทั้งวิวโล่งๆอย่างราชพฤกษ์ และวิวเมืองสีลม สาทร และแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงนี้แล้วต่อความชอบของแต่ละบุคคลครับ


ข้อมูลเพิ่มเติม : Sansiri

Thursday, August 8, 2013

โครงการ Condolette Midst Rama9



ข้อมูลโครงการ

Condolette Midst Rama9 ถนนพระราม 9 (ตรงข้ามเซ็นทรัล พระราม 9) รถไฟใต้ดินสถานี พระราม 9 โดย บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)

อาคารชุดสูง 30 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 433 ยูนิต พื้นที่โครงการ 2-0-87 ไร่ มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวน ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว พร้อมที่จอดรถประมาณ 40% แบบห้องจะเป็น สตูดิโอ-3 ห้องนอน ขนาด 21-78 ตารางเมตร 2,300,000 บาท หรือ 130,000 บาทต่อตารางเมตร เปิดขาย เมื่อเดือนมิถุนายน 2556 คาดว่าจะสร้างเสร็จเดือนกันยายน 2559

Price (ราคา)

ถ้าพูดถึงราคาต่อตารางเมตร Condolette Midst Rama9 ค่อนข้างสูงกว่าคู่แข่งที่ตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน ทั้ง Aspire (105,000 บ/ตร.ม.) และ Ideo Mobi Rama9 (125,000 บ/ตร.ม.) แต่เมื่อพิจารณาที่ราคาต่อยูนิตแล้วทำให้ Condolette มีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า จึงเป็นจุดขายอย่างหนึ่งที่น่าสนใจของโครงการ

Location (ทำเลที่ตั้ง)

ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 เดินทางสะดวก ตัวอาคารอยู่ตรงกลางระหว่างโครงการ Ideo Mobi และ Aspire Rama9 ใกล้ห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ใกล้โครงการ Grand Rama9 ที่ประกอบไปด้วยอาคารสำนักงาน โรงแรม และห้างสรรพสินค้า ถือว่าเป็นทำเลที่ดีที่สุดในย่านรัชดา

Project and Design (รูปแบบโครงการ และการออกแบบ)

แบบ 1 ห้องนอน 34 ตารางเมตรออกแบบว่าค่อนข้างดีแนะนำ แบบห้อง C3 C4 และ จะได้ทิศ City View และ โครงการ Grand Rama 9 ไม่โดนบล็อควิวเพราะเป็นตำแหน่งมุมสุดยอดจองเลยครับ

Facilities (ส่วนกลาง/สิ่งอำนวยความสะดวก)

ส่วนกลางโครงการถูกจัดให้อยู่ชั้น 8 หันหน้าไปทางทิศตะวันออก(ปั๊มแก็ส) ด้านบนสุดของตัวอาคารเป็นสวนพักผ่อน ซึ่งได้รับการออกแบบที่ค่อนข้างสวยงามถือว่าทางพฤกษาฯ ทำออกมาดีทีเดียว



My Note

โครงการ Condolette Midst Rama9 ราคาต่อตารางเมตร สูงกว่า คู่แข่งบริเวณเดียวกัน แต่ราคาต่อยูนิต ต่ำกว่า ถ้าอยากได้ห้องราคาถูกแนะนำทิศตะวันตก(Ideo Mobi) เพราะราคาต่างกับทิศตะวันออก(ปั๊มแก็ส) ประมาณ 200,000 บาท แม้ว่าจะถูกบดบังวิวจากโครงการ Ideo Mobi แต่จะได้วิวสระ วิวสวนของ Ideo Mobi มาทดแทน



ที่มา : Condolette Midst Rama9 , วันที่ 9 กรกฎาคม 2556

การเลือกซื้อบ้านมือสอง



จุดที่ต้องสังเกตเมื่อต้องเลือกซื้อบ้านมือสอง

1. สอบถามถึงประวัติของตัวบ้าน เช่น สร้างมากี่ปี มีแบบพิพม์เขียวหรือไม่ ใครเป็นผู้ออกแบบ ใครเป็นผู้ก่อสร้าง ใครเป็นเจ้าของเดิม ย้ำว่าข้อมูลทุกอย่างมีความสำคัญและ สามารถนำมาเป็นข้อมูลประกอบการแก้ปัญหาตัวบ้านได้ในภายหลัง


2. ดูด้วยสายตาโดยรอบตัวบ้าน เพื่อให้แน่ใจว่าตัวบ้านไม่เอียงหรือทรุดตัวไปด้านใดด้านหนึ่ง หากพบว่าตัวบ้านเอียง ให้คาดคะเนได้เลยว่า ตัวฐานรากใต้ดินมีปัญหา ซึ่งค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงพอควร


3. สภาพงานทาสีบนผนังทั้งภายใน ภายนอกว่ามีสีหลุดล่อนเป็นแผ่นๆ หรือสภาพขึ้นราหรือไม่ บางครั้งอาจพบว่าคุณภาพของสีเดิมแย่มากจนมองเห็นรอยแตกลายงาบนผนังได้ ถ้าเจอสภาพแบบนี้ก็คงจะต้องเตรียมเงินค่าทาสีใหม่ทั้งหลังไว้ได้เลย


4. ดูสภาพปูนฉาบบนผนังก่ออิฐ โดยใช้สันเหรียญขูดหนักๆบนผิวผนัง หากเป็นอาคารเก่าประเภทอายุ 30 ปีขึ้นไป เราจะพบว่าปูนฉาบจะหลุดร่วงลงมาเป้นผงแป้ง ถ้าเป็นแบบนี้ก็ควรเตรียมค่าสกัดผิวปูนฉาบ และฉาบปูนใหม่ทั้งหลัง


5. สำหรับบ้านที่มีโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ในสังเกตเสา คาน และผนังก่ออิฐ โดยทั่วไปว่ามีรอยแตกรอยร้าวหรือไม่ หากพบว่ามีรอบแตกร้าวรูปฟ้าผ่าเป็นแนวเฉียง 45 องศา ให้คาดคะเนไว้ว่าโครงสร้างเสาและฐานรากน่าจะมีปัญหา ซึ่งจะนำไปสู่การทรุดเอียงของตัวบ้านได้ และการแก้ปัญหาลักษณะนี้ก็ค่อนข้างยากเช่นกัน ขอแนะนำให้เปลี่ยนไปเลือกดูบ้านหลังอื่นๆจะดีกว่า


6. สำหรับบ้านที่มีโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ให้สังเกตดูขนาดเสาบ้านที่เหมาะสม เช่น บ้านสองชั้นเสาก็ควรมีขนาด Ø 20 x 20 เซนติเมตร และบ้านสามชั้น เสาก็ควรมีขนาดอย่างน้อย Ø 25 x 25 เซนติเมตรจึงจะดี


7. สำหรับบ้านที่โครงสร้างพื้นชั้นล่างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ให้ดูว่าพื้นชั้นล่างมีการแอ่นตัวหรือไม่ และให้สังเกตดูรอบๆพื้นที่ห้องว่ามีรอยแตกบริเวณมุมผนังชนผิวพื้นหรือไม่ หากพบว่ามี ให้คาดคะเนว่าพื้นห้องดังกล่าวเป็นพื้น ค.สล.ชนิดวางบนดินและดินใต้บ้านอาจเป็นโพรงดิน จึงส่งผลให้เป็นพื้นทรุดตัวตามกันลงไป การแก้ปัญหาแบบนี้ต้องทุบพื้นใหม่ บดอัดดินให้แน่แล้วเทพื้นใหม่อีกครั้ง แต่ทางที่ดีเลือกบ้านแบบที่ใช้พื้นวางบนคานจะสบายใจกว่า


8. หากพบว่าไม้พื้นมีอาการโก่งตัว บิดตัวระเบิดขึ้นมา หรือพบว่ามีคราบน้ำเหนียวผุดขึ้นมาระหว่างรอยยาแนวกระเบื้อง ให้คาดคะเน ว่าใต้อาคารมีความชื้นมากจนซึมทะลุขึ้นมาบนพื้นคอนกรีต ให้เตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับแก้ไขด้วยการรื้อวัสดุปูพื้นออกแล้วทาน้ำยาป้องกันความชื้นก่อนปูผิวพื้นใหม่


9. สำหรับงานไม้ต่างๆ เช่น วงกบ หน้าต่าง ประตู ราวบันได บัวพื้น ตลอดจนถึงโครงสร้างที่เป็นไม้ เช่น เสา คาน ตง ให้ตรวจดูว่ามีปลวก มอด แมลงเข้าไปเจาะทำลายมากแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านที่ไม่มีคนอยู่ ปลวกมักเข้าไปทำรังอยู่เป็นอันมาก


10. ดูคราบรอยรั่วในจุดต่างๆ ดังนี้
- รอบวงกบหน้าต่าง ประตู
- ดูฝ้าเพดานชั้นบนสุดของบ้านว่ามีคราบน้ำรั่วที่เกิดจากหลังคารั่วหรือไม่
- ดูฝ้าเพดานใต้พื้นห้องน้ำชั้น 2 –3 ขึ้นไป หากพบว่ามีคราบน้ำรั่ว แสดงว่าท่อระบายน้ำที่พื้นห้องน้ำรั่วซึม
- ดูฝ้าไต้ชายคารอบนอกบ้านว่าคราบรอยรั่วหรือไม่
- ดูผนังห้องน้ำด้านนอกและด้านในว่ามีคราบน้ำรั่วตามแนวการเดินท่อบ้างหรือไม่
- หากตัวบ้านมีระเบียงหรือ กันสาดบริเวณชั้น 2 ให้สังเกตผูฝ้าเพดานใต้บริเวณดังกล่าวว่ามี คราบน้ำรั่วซึงหรือไม่


11. ดูระบบน้ำดีด้วยการปิดก๊อกน้ำทุกตัวในบ้านแล้วตรวจดูมิเตอร์น้ำ หากตัวเลขบนมิเตอร์วิ่งแสดงว่ามีจุดนั่วในระบบท่อน้ำดีแน่นอน


12. ตรวจดูสภาพสุขภัณฑ์ต่างๆว่าใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ และหากสภาพทรุดโทรมมากก็ต้องซ่อมแซมกันตั้งแต่ในจุดเล็กๆ เช่น แหวนยางต่างๆ จนถึงการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ เช่น ก๊อกน้ำและวาล์วต่างๆเป็นต้น


13. ตรวจดูสภาพฉนวนหุ้มสายไฟว่ากรอบแตกหรือไม่ และหากเป็นบ้านที่ยังไม่ถูกตัดไฟ ก็ให้ทดลองเปิดเบรกเกอร์จ่ายไฟเข้าสู่ระบบ แล้วดูว่าระบบไฟฟ้าแสงสว่างยังทำงานตามปกติหรือไม่ แต่สภาพอาคารเก่าๆที่อายุ 30 ปีขึ้นไปก็ควรเปลี่ยนสายไฟใหม่ทั้งระบบจะดีกว่า


14. สังเกตดูแนวรั้วบ้านว่าเอียง ทรุด ล้ม หรือบิดเบี้ยวไปหรือไม่ หากพบว่ามีและต้องซ่อมแซม ก็ต้องประเมินว่าต้องมีงานทุบรื้อรั้วในแนวนั้นออกไป และซ่อมแซมฐานรากใหม่ แล้วจึงจัดทำรั้วขึ้นมาใหม่


15. สุดท้าย นอกจากดูตัวบ้านแล้วก็อย่าลืมดูสภาพแวดล้อมด้วยว่าบริเวณข้างเคียงติดกับอะไร เช่น พื้นที่อาจไปติดกับแนวนไม้รกทึบ หรือพื้นที่การค้าประเภทอู่เคาะพ่นสี ก็จะสร้างมลภาวะต่อครอบครัวเราได้เหมือนกัน

ที่มา : หนังสือ “คู่มือปลูกบ้าน” โดย คุณศักดา ประสานไทย โดยสำนักพิมพ์บ้านและสวน 
ที่มา : กระทู้พันทิป

Monday, July 29, 2013

สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีแรก 2556

          ตลาดอสังหาริมทรัพย์ครึ่งหลังของปี พ.ศ.2556 จะชะลอกว่าครึ่งแรกประมาณ 10% แต่ก็ยังทำให้ทั้งปี 2556 เติบโตกว่าทั้งปี2555 อยู่ 4% ในแง่มูลค่า และ 12% ในแง่จำนวนหน่วยเปิดใหม่ คือ จะมีหน่วยขายเปิดใหม่รวมมูลค่า 310,772 ล้านบาท รวมทั้งหมด 113,584 หน่วย

          โครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่เปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี พ.ศ.2556มี 186 โครงการ น้อยกว่าปี พ.ศ.2555 ซึ่งทั้งปีมีถึง 416 โครงการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 169,645 ล้านบาท และมีจำนวนหน่วยขายเปิดใหม่ทั้งหมด 61,540 หน่วย โดยทั้งนี้ 99% เป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย มีอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นบ้าง แต่น้อยมาก

          ในจำนวนอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยทั้งหมด 167,985 บาทที่เปิดตัวในครึ่งปีแรกนี้ มีหน่วยขายรวมกันถึง 61,397 หรือเท่ากับหน่วยละ 2.736 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี พ.ศ.2555 ที่ราคาหน่วยขายเฉลี่ยเป็นเงิน 2.937 ล้านบาท ก็แสดงว่า สินค้าที่เปิดตัวเน้นขายในราคาที่ต่ำลง ทั้งนี้เพื่อหวังให้มีปริมาณผู้ซื้อมากขึ้น แสดงว่าตลาดกำลังเข้าสู่ภาวะการขายที่ชะลอตัวกว่าแต่ก่อน จึงต้องทำสินค้าราคาต่ำลงเพื่อกระตุ้นกำลังซึ้ง

          หากสมมติให้ในช่วงครึ่งหลังของปี พ.ศ.2556 มีจำนวนและมูลค่าของหน่วยขายเปิดใหม่เป็นเพียง 85% ของครึ่งปีแรก เพราะในช่วงครึ่งปีหลังอาจมีการชะลอตัวในการเปิดตัวโครงการใหม่บ้างตามภาวะการขายที่ชะลอตัวลง ก็ยังจะทำให้ทั้งปี มีหน่วยขายเปิดใหม่รวมมูลค่า 310,772 ล้านบาท จากทั้งหมด 113,584 หน่วย ซึ่งแสดงว่ามูลค่าเพิ่มมากกว่าปี พ.ศ.2555 ประมาณ 4% ส่วนจำนวนหน่วย เพิ่มขึ้นประมาณ 12%

การเปิดตัวใหม่ของโครงการอสังหาริมทรัพย์ครึ่งแรก พ.ศ.2556

ประเภท
มูลค่า (ล้านบาท)
%
จำนวนหน่วย
%
ราคาเฉลี่ย (ล้าน บ)
บ้านเดี่ยว
 31,752
19%
 5,147
8%
 6.169
บ้านแฝด
 3,332
2%
 1,156
2%
 2.882
ทาวน์เฮ้าส์
 24,019
14%
 11,818
19%
 2.032
อาคารพาณิชย์
 4,999
3%
 927
2%
 5.393
อาคารชุด
 103,872
61%
 42,342
69%
 2.453
ที่ดินจัดสรร
 12
0%
 7
0%
 1.714
รวมที่อยู่อาศัยทั้งหมด
 167,985
99%
 61,397
100%
 2.736
อสังหาริมทรัพย์อื่น
 1,660
1%
 143
0%
 11.608
รวมอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด
 169,645
100%
 61,540
100%
 2.757


ที่มา: ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส


          เมื่อวิเคราะห์ในรายละเอียดจะพบว่า ในกรณีจำนวนหน่วยขายทั้งหมดนั้น เฉพาะในครึ่งแรกของปี พ.ศ.2556 นี้ 69% เป็นห้องชุด แสดงให้เห็นว่าห้องชุดเป็นสินค้าหลักในตลาดกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นต่อเนื่องมา 2-3 ปีแล้วที่ห้องชุดเป็นสินค้าหลักในตลาด ทั้งนี้คงเป็นเพราะที่ดินมีจำกัด การเน้นการเดินทางโดยรถไฟฟ้า และปัญหาน้ำท่วมในชานเมือง ทำให้ประชาชนสนใจซื้อห้องชุดในเขตเมืองมากขึ้น

          กรณีที่ทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว ยังมีจำนวนหน่วยน้อย โดยมีสัดส่วนเพียง 19% และ 8% ตามลำดับนั้น คงเป็นเพราะว่าสินค้าขายได้ช้ากว่า โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส คาดการณ์ว่า ห้องชุดจะขายได้หมดในเวลา 7 เดือน ทาวน์เฮาส์ ใช้เวลาขายอีก 21 เดือน และบ้านเดี่ยวใช้เวลาขายนานที่สุดคือ 35 เดือน ดังนั้นจึงไม่เกิดภาวะผลิตเกินในตลาดทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวที่ขายได้ช้าอยู่แล้ว

          ส่วนกรณีของบ้านแฝด อาคารพาณิชย์หรือตึกแถว และที่ดินเปล่าจัดสรรเพื่อการอยู่อาศัย คงเป็นสินค้าที่ไม่เป็นที่ต้องการของตลาดมากนัก โดยเฉพาะที่ดินเปล่ามักไม่สามารถที่จะขอกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ จึงแทบไม่มีการผลิตสินค้าประเภทนี้ออกมา ส่วนบ้านแฝดและอาคารพาณิชย์มีสัดส่วนอยู่ในตลาดเพียง 2-3% เท่านั้น

          สำหรับประเด็นปัญหาการล้นตลาดนั้น ขณะนี้พบว่ามีการซื้อเพื่อการเก็งกำไรมากขึ้น และอาคารชุดที่ทะยอยเสร็จ กำลังประสบปัญหาการโอนพอสมควร สัดส่วนของผู้จองซื้อและไม่สามารถขอกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ แต่เดิมคาดว่ามีอยู่ต่ำกว่า 5-6% แต่ขณะนี้คาดว่าอาจสูงถึง 12-15% กรณีเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อสถานะของบริษัทพัฒนาที่ดินได้ในระดับหนึ่ง ยิ่งหากผู้ได้รับสิทธิการกู้ แต่ไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้ และกลายเป็นหนี้เสีย ก็อาจยิ่งส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินได้ในภายหลัง

          ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส คาดการณ์ว่าอุปทานในตลาดของครึ่งหลังของปี พ.ศ.2556 อาจชะลอกว่าครึ่งแรกของปี 2556 อยู่ประมาณ 10-15% แต่ถ้าภาวะเศรษฐกิจไทยยังดีอยู่ ก็อาจมีการเติบโตเท่ากับครึ่งแรกของปี พ.ศ.2556 การเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ก็จะมีมากกว่าที่คาดหวังได้

         มาตรการสำคัญต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ คงไม่ใช่การกระตุ้นกำลังซื้ออีกต่อไป แต่จะเป็นการเพิ่มสัดส่วนเงินดาวน์ให้สูงขึ้น เพื่อความมั่นคงของตลาด โดยควรมีสัดส่วนเงินดาวน์อย่างน้อย 15-20% ของราคาขาย นอกจากนี้สัดส่วนการขอกู้จากสถาบันการเงินควรเป็น80-85% ของมูลค่าตลาดจากการประเมินค่าทรัพย์สินของบริษัทประเมินทรัพย์สินอิสระ ไม่ควรให้สถาบันการเงินประเมินกันเอง

          ยิ่งกว่านั้นมาตรการที่ต้องดำเนินการเป็นอย่างยิ่งก็คือ ให้บริษัทพัฒนาที่ดินทั้งหลายจัดทำสัญญาการคุ้มครองเงินดาวน์ของผู้บริโภค ซึ่งอาจทำให้ทั้งผู้บริโภค และผู้ประกอบการเสียค่าใช้จ่ายในการประกันเงินดาวน์ของคู่สัญญาบ้าง แต่ก็คงไม่ถึง 0.1% ของมูลค่า แต่จะคุ้มครองเงินดาวน์ของผู้ซื้อหรือผู้บริโภค ไม่ให้สูญเสียไปหากการพัฒนาที่ดินตามโครงการนั้นผิดพลาด การนี้จะทำให้ตลาดมีความมั่นคงยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการรายเล็ก ไม่เสียเปรียบผู้ประกอบการายใหญ่ ที่สำคัญผู้บริโภคได้ประโยชน์ ซึ่งจะทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ไปด้วย เพราะผู้บริโภคจะวางใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการคุ้มครองเงินดาวน์มากยิ่งขึ้น





ที่มา : ดร.โสภณ พรโชคชัย

ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย

บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส

Tuesday, July 16, 2013

พื้นที่จำกัด ก็จัดสวนสวยได้

ใส่พื้นที่สีเขียวเล็กๆ ให้กับบ้านหลังน้อย

เป็นพื้นที่ว่างสำหรับพักผ่อนของครอบครัวได้ดีทีเดียว

สำหรับคนชอบดอกไม้ สีตัดกับสนามหญ้าดีจริงๆ

จัดสวนแนวตั้ง


มีบ่อน้ำเข้ามาเสริม แต่แบบนี้น่าจะปูหญ้าซะหน่อย

          แบบการจัดสวนที่นำมาให้ดูก็คงเป็นแนวคิดเบื้องต้นให้ผู้ที่ชอบแต่งบ้านนำไปใช้ได้จริงๆ ทำได้ไม่ยาก เหมาะสำหรับที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว โดยเฉพาะหลังมุม (ในโครงการจัดสรร) จะมีพื้นที่จัดสวนมากกว่าหลังอื่น ดังนั้นเมื่อคุณตัดสินใจซื้อพื้นที่เพิ่มมาแล้ว ก็ควรจัดตกแต่งใส่ Idea ความคิดสร้างสรรค์ของคุณลงไปให้เต็มที่ เพื่อความสุขของคนในบ้านคุณนั่นเอง



ที่มา : Forfur

Wednesday, June 19, 2013

IDEA for Small Space


        It's flexible function for your home design or condominium. That is good idea but you should be careful when you are sitting in a living room.

        God Bless You,


Credit : Homedit

Monday, May 13, 2013

โครงการ The Edition Condo สถานีสะพานควาย

The Edition BTS Saphankwai

          มาแล้วหลังจากแอบมองแปลงที่ดินอยู่นาน The Edition Condominium จาก บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ส่งลงชิงส่วนแบ่งจากตลาดทำเล อารีย์ สะพานควาย ที่ตอนนี้คู่แข่งหลายรายเปิดขายไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่าง Noble Revolve อารีย์ ตารางเมตรละ 120,000 บาท และในอนาคตยังมีอีกหนึ่งโครงการที่รออยู่คือ Centric โดย SC Asset มาแน่ แต่ไม่รู้ตอนไหน

          สำหรับ The Edition Condominium นี้เหมาะสำหรับผู้อยู่อาศัยจริง สถานการณ์แบบนี้คนสายป่านสั้นไม่แนะนำให้ลงทุน แต่ถ้าคนรวยไม่มีที่จะเก็บเงินก็จัดเลยครับ เพราะติดทางขึ้น ลงสถานีรถไฟฟ้าขนาดนี้หายากจริงๆ

แผนที่โครงการ The Edition
       
          ลงทะเบียน 27-1 มิ.ย. ที่ La Villa อารีย์ ราคาเริ่ม 3 ล้านกว่าบาท ลงทะเบียนคลิ็ก

ที่มา : kobkid.com

Money Expo'13 สินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ย 0%

          


          กลับมาอีกครั้งกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Housing Loan) ดอกเบี้ยสำหรับคนซื้อบ้าน 0% นาน 8 เดือน โดย ธอส. (ธนาคารอาคารสงเคราะห์) ทั้งนี้วงเงินมีจำนวนจำกัด และที่สำคัญคือเฉพาะในงาน Money Expo เท่านั้น ซึ่งจัดไปแล้ว 9-12 พฤษภาคม 2556 

          สรุปโปรโมชั่น ธอส. ดังนี้
  • 0% นาน 8 เดือน 
  • เดือนที่ 9-24 MRR-2%
  • ปีที่ 3 ตลอดจนอายุสัญญา ลูกค้าสวัสดิการ MRR-1%, ลูกค้าทั่วไป MRR-0.5%
  • ได้รับค่ายกเว้นค่าประเมินทรัพย์สิน
  • กู้ได้ทั้งซ่อมแซม ปลูกสร้าง และไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น

          โปรโมชั่นดีๆอย่างนี้น่าจะจัดยาวๆหน่อยนะครับ เพื่อเอาใจคนซื้อบ้าน หลายคนต้องการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อสร้างความฝันของช่วยสร้างความฝันของคนอยากมีบ้านให้เป็นจริง อย่างไรก็ตามฝากทาง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รับไปพิจารณาด้วย

ที่มา : kobkid.com

Tuesday, April 23, 2013

โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี)

          ภาพโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม จาก home.co.th

          ข้อมูลจาก REIC(ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์) คอลัมน์ update ระบบขนส่งมวลชนเพื่อรายงานความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้า และระบบขนส่งมวลชนอืนๆ ทั้งนี้เพราะได้เกิดความร่วมมือของ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กับ การเคหะแห่งชาติ เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ทั้งนี้จะได้มีการออกแบบสถานีให้สอดคล้องกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยในอนาคต

          สายสีส้ม มีพื้นที่ของการเคหะฯ 2 พื้นที่ ดังนี้

          บริเวณโครงการเคหะชุมชนดินแดง สถานีจะใกล้กับโครงการเคหะชุมชนดินแดง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พักอาศัยในโครงการ

          บริเวณโครงการเคหะชุมชนร่มเกล้า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนฯ เสนอให้มีระยะขนส่งลำเลียงแบบ BRT มายังสถานีรถไฟฟ้ามีนบุรี และบริเวณจุดตัดแยกสุวินทวงศ์ ซึ่งจะเป็นจุดตัดของจุดจอดรถไฟฟ้าสายสีชมพู กับสายสีส้ม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาที่ดินของการเคหะฯ ในบริเวณชุมชนโครงการเคหะชุมชนรามคำแหง และพื้นที่ใกล้เคียง

          รายละเอียดโครงการ
  • โครงการสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) มีระยะทางทั้งสิ้น 37.5 กิโลเมตร
  • ระบบขนส่งเชื่อมต่อฝั่งตะวันตก ไปตะวันออก ตามแนวถนนรามคำแหง ราชปรารภ เพชรบุรี หลานหลวง และราชดำเนิน
  • ฝั่งธนบุรีจะเปิดพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟเดิมบริเวณบางกอกน้อย และตลิ่งชันซึ่งมีศักยภาพสูง
  • ผ่านสถานที่สำคัญ ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช สนามหลวง ประตูน้ำ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยรามคำแหง หอการค้า นิด้า และ ABAC รวมถึงสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน

          ความคืบหน้าปัจจุบัน (วันที่ 23 4 56)
  • การดำเนินงานแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ, ศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางกะปิ และช่วงบางกะปิ-มีนบุรี
  • ปัจจุบันอยู่ในแผนเร่งรัด 4 ปี ของรัฐบาล
  • เริ่มสร้าง มีนบุรี บางกะปิ ศูนย์วัฒนธรรมฯ เป็นอันดับแรก เพราะเป็นโครงการบนดิน
  • สถานีที่เหลือเป็นโครงการเป็นใต้ดินทั้งหมด
  • คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2558 เป็นต้นไป
  • คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ในปี 2562

ที่มา : REIC ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์

Friday, March 15, 2013

Bangkok Waterfront Chao Phraya Riverside



          โครงการของ บริษัท คันทรี่กรุ๊ป ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ชื่อ LANDMARK WATERFRONT มูลค่าโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท (The River 15,000 ล้านบาท) (มหานคร 19,000 ล้านบาท) เป็น Mega Project ที่น่าสนใจของกรุงเทพมหานครฯ (Bangkok) Project หนึ่งเลยทีเดียว

ที่ตั้งโครงการ

ข้อมูลโครงการ
  • พื้นที่โครงการทั้งหมดประมาณ 34 ไร่
  • ที่ตั้งถนนเจริญกรุง (สะพานปลาเก่า) ข้างๆ Chatruim Condominium
  • สัญญาเช่าพื้นที่ระยะยาว 75 ปี (จากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์)
  • พื้นที่โครงการแบ่งออกเป็น 3 Zone หลักๆ คือ Capella Residences, Capella Bangkok 6 Stars Hotel และ Jumeirah 5 Stars Hote โดยมีข้อมูลคร่าวๆ ดังนี้
  1. Capella Residences
    • สูง 73 ชั้น 
    • จำนวน 352 ยูนิต
    • Super Luxury Segment
  2. Capella Bangkok 
    • 6 stars hotel
    • สูง 11 ชั้น
    • จำนวน 101 ยูนิต
  3. Jumeirah Hotel
    • 5 stars hotel
    • สูง 10 ชั้น
    • จำนวน 305 ยูนิต
Masterplan

Section


          ถ้าโครงการนี้เสร็จสมบูรณ์จะทำให้วิวเจ้าพระยาสง่างามยิ่งขึ้น ด้วยความสูงอาคารขนาดนี้ จะต้องเป็น Landmark แห่งใหม่ในย่านนี้อย่างแน่นอน (สมกับชื่อโครงการจริงๆ) โดยส่วนตัวอยากเห็นอาคารสูง ที่มีความงามของสถาปัตยกรรม ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆของกรุงเทพมหานครฯ ไม่ใช่เพียงแค่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้น

ภาพบรรยากาศโครงการ

ถนนเจริญกรุง

 มุมมองจากวัดยานนาวา


ที่มา : คุณ thebkd [pantip.com] วันที่ 30 มกราคม 2556

Friday, March 8, 2013

Bangkok Metropolitan 2013



          รู้หรือไม่ Bangkok หรือ กรุงเทพฯ มีสถานะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ภายใต้พรบ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทมหานคร พ.ศ. 2528 มีข้อมูลบางอย่างที่คุณอาจรู้ ซึ่งมีความน่าสนใจมาก ดังนี้
  • กรุงเทพฯ มีประชากรที่จดทะเบียนอยู่ 5.7 ล้านคน (รวมประชากรแฝงจะเป็น 10 ล้านคน)
  • กรุงเทพฯ แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 50 เขต 169 แขวง ผู้ว่าราชการฯ มาจากการเลือกตั้ง สมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) จำนวน 61 คน สมาชิกสภาเขต (ส.ข.) 361 คน
  • รายรวมในปี 2555 เท่ากับ 55,000,000,000 บาท
  • สถิติปี 2555 พบว่ามีคดีอาชญากรรม 160,811 คดี แบ่งเป็นยาเสพติด 64,363 คดี เด็ก คนชรา 9,476 คดี นักท่องเที่ยวต่างชาติ 233 คดี และอัคคีภัย 25 คดี
HOUSEHOLD INCOME
  • ข้อมูลปี 2543 ชาวกรุงเทพฯ มีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนต่อเดือน 26,909 บาท หรือรายได้เฉลี่ยต่อคน 8,154 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายต่อครัวเรือน 20,448 บาท หรือต่อคน 6,284 บาท โดยสัดส่วนค่าใช้จ่ายตอรายได้เท่ากับ 76%
ECONOMICS
  • กรุงเทพฯ ถูกจัดให้เป็นมหานครอันดับ 15 ของโลก
  • กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางทางการเงินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • GDP 25% ของประเทศมาจากกรุงเทพฯ
PUBLIC TRANSPORTATION
  • BTS : เป็นรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศไทย ลงทุนโดยเอกชน 100% ริเริ่มโดยพลตรีจำลอง ศรีเมือง เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2535 เปิดใช้เมื่อปี 2542 ระยะทาง 17 กิโลเมตร มีชื่อพระราชทานว่า "รถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ ๖ พระชนมพรรษา สาย ๑"
  • BTS : ระยะทางรวม 30.95 กิโลเมตร 30 สถานี ให้บริการได้มากกว่า 1,000 คนต่อขบวน 
  • MRT : รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล นิยมเรียกว่ารถไฟฟ้าใต้ดิน เริ่มก่อสร้างปี 2542 เปิดใช้อย่างเป็นทางการ 3 กรกฎาคม 2547 ระยะทางรวม 21 กิโลเมตร 18 สถานี
  • BRT : Bus Rapid Transit  เป็นรถที่ประหยัดเวลา สะดวกสบาย และมีความปลอดภัยสูง มีจำนวน 12 สถานี BRT 1 คันรองรับคนได้ 80 คน
  • Airport Link : รถไฟฟ้าเชื่อมต่อไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เริ่มสร้างปี 2549 เปิดใช้อย่างเป็นทางการ 23 สิงหาคม 2553 มีรถความเร็วสูงบริการ 15 นาที จากมักกะสัน ถึง สุวรรณภูมิ  
TRAFFIC  
  • ประชากรในกรุงเทพฯ กระจุกตัวอยู่อย่างหนาแน่น แรงงานเข้าสู่ตัวเมือง เกิดปัญหาระบบขนส่งมวลชน
  • กรุงเทพฯ มีพื้นที่ถนนเพียง 10% ของพื้นที่เมืองทั้งหมด
  • Tokyo หรือ โตเกียว มีพื้นที่ถนน 23% 
  • New York หรือ นิวยอร์ก มีพื้นที่ถนน 38%
  • Taxi จำนวน 107,204 คันมีใบอนุญาตถูกต้อง
  • ตุ๊ก ตุ๊ก จำนวน 8,997 คันมีใบอนุญาตถูกต้อง
  • มอเตอร์ไซค์วิน จำนวน 56,251 คันมีใบอนุญาตถูกต้อง
  • รถยนต์ส่วนบุคคล จำวน 7,523,381 คัน คือยอดจดทะเบียนถูกต้อง และวิ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ปัจจุบัน
TOURISM 
  • จากเว็บไซต์ยูโรมอนิเตอร์ ปี 2549 พบว่า กรุงเทพฯมีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก (รองจากกรุงลอนดอน)
  • จากนิตยสาร ทราเวลแอนด์เลเซอร์ กรุงเทพฯ ได้รับเลือกให้เป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกปี 2551, 2553, 2554 และ 2555 
  • ตลาดนัดจตุจักร เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  • พื้นที่สีเขียวปี 2553 ในกรุงเทพฯ มี 23,378,480.64 ตารางเมตร เทียบกับจำนนประชากรแล้ว 4.09 ตารางเมตรต่อคน (องค์กรอนามัยโลกกำหนดไว้ที่ 9 ตารางเมตรต่อคน)





ที่มา : ภาพจาก Internet
ที่มา : Aday Bulletin [Issue 239 : 15-21 Feb 2013]

Friday, February 22, 2013

ลัง + ตัวหนีบ = ชั้นวางหนังสือ

D.I.Y วันนี้ขอเสนอการทำชั้นวางหนังสือง่ายราคาประหยัด แบบว่าใช้ของเก่า ของเหลือใช้มาทำก็ได้
ง่ายๆ สบายๆ ดูภาพเดียวก็เข้าใจเลย มาลุยเลยดีกว่า



วัสดุ และอุปกรณ์

กล่อง ลัง ไม้อัด หรือกระดาษแข็ง แล้วแต่สะดวก
กาว ตัวหนีบ กรรไกร เลื่อย แล้วแต่วัสดุ

วิธีทำ

นำกล่องมาต่อกัน วาง Composition ตามใจชอบ (อันนี้ใจศิลปะส่วนตัวของแต่ละคน)
จากนั้นใชตัวหนีบ หนีบให้มันติดกัน

ประโยชน์

ก็วางหนังสือไง (หืมมม..) วางอย่างอื่นก็ได้ ทำเป็นชั้นโชว์ของก็ได้ ไว้ตกแต่งห้อง หรือคอนโดของทุกท่านเลยครับ



ที่มา : Handmadecharlotte , Farcebook : Vento Condo

Thursday, February 21, 2013

Small rooms can always look bigger!


ออกแบบ Living Room เล็กๆ ให้ดูกว้างได้ด้วย Wallpaper ดูมีมิติขึ้นเยอะ สามารถนำไปใช้ได้กับ 
Condo ขนาดเล็กใน กรุงเทพมหานคร


Posted by : Homeyra C Hamidi

ที่มา : Art&Interior Design Facebook  

Wednesday, February 20, 2013

คอนโด 1 ล้านต้นๆ หมดสิทธิ์เกิด



ต้นทุนเพิ่ม

จากต้นทุนค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด ข้อมูลจาก 10  บริษัทอสังหาฯรายใหญ่พบว่าทุนเพิ่ม 6-21% Property Perfect บอกว่า "หมดสิทธิ์เห็นคอนโดในเมืองราคา 1 ล้านต้นๆ" ด้าน LPN และ พฤกษาฯ ที่เป็นเจ้าคอสต์ลีดเดอร์ชิปสามารถกดค่าใช้จ่ายเหลือตารางเมตรละ 8 พันบาท ส่งผลให้ผู้ประกอบการหันมาลดต้นทุนกันแบบสุดตัวทั้ง ปรับแบบอาคาร วัสดุ ล็อกราคา และเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาล่วงหน้า

จากหนังสือพิมพ์ "ประชาชาติธุรกิจ" ได้ทำการสำรวจต้นทุนค่าก่อสร้างคอนโดมิเนียม 10 บริษัท ได้แก่

  1. LPN เปิดโครงการใหม่ปีนี้ 13 โครงการ
  2. พฤกษา เปิดโครงการใหม่ปีนี้ 13 โครงการ
  3. ธารารมณ์ เปิดโครงการใหม่ปีนี้ 1 โครงการ
  4. มั่นคงเคหะการ เปิดโครงการใหม่ปีนี้ 1 โครงการ
  5. AP เปิดโครงการใหม่ปีนี้ 8 โครงการ
  6. QH เปิดโครงการใหม่ปีนี้ 3 โครงการ
  7. L&H เปิดโครงการใหม่ปีนี้ 10 โครงการ
  8. Property Perfect เปิดโครงการใหม่ปีนี้ 6 โครงการ


ปัจจัย มาจากค่าจ้างผู้รับเหมา ค่าจ้างแรงงาน และราคาวัสดุก่อสร้าง 
วิธีการแก้ปัญหา ลดวัสดุฟุ่มเฟือย ซื้อวัสดุบิ๊กล็อตล่วงหน้า และปรับราคาขายขึ้น

โดยสรุปภาพรวม การปรับราคาค่าก่อสร้าง พฤกษา และ LPN สามารถควบคุมไม่ให้เพิ่มขึ้นมาได้โดยรักษาระดับอยู่ที่ 8,000 บาทต่อตารางเมตร (อาคารสูง 8 ชั้น) Property Perfect มีค่าก่อสร้างเฉลี่ยเพิ่มสูงที่สุด 21% คิดเป็น 17,000 บาทต่อตรางเมตร (อาคารสูง 8 ชั้น)

พิจารณาต้นทุนตามโครงการ เพื่อที่จะได้นำไปเปรียบเทียบกับราคาขาย ประกอบการตัดสินใจซื้อ

Lumpini Town Ship รังสิต คลอง1
ประเภท คอนโดมิเนียม
ราคาขาย 600,000 บาท (ประมาณ 30,000 บาทต่อตารางเมตร)
ขนาด 21 ตารางเมตร
จำนวน 10,000 Units
เปิด Q3/56
ที่ดิน 100 ไร่
อาคาร 8 ชั้น ต้นทุน 8,000 บาทต่อตารางเมตร (สูงเกิน 8 ชั้น 12,000 บาทต่อตารางเมตร)
ลด Cost โดย ลดช่องกระจก ลด size กระเบื้องปูพื้น ลดราคาลิฟท์ จอดรถรอบอาคาร ลดระยะเวลาการก่อสร้างเหลือ 8-9 เดือนต่อ 1 อาคาร สูง 8 ชั้น

พฤกษาเรียลเอสเตท ทำเลชานเมือง
ประเภท คอนโดมิเนียม
ราคาขาย 500,000-600,000 บาท
ขนาด 20 ตารางเมตรต้นๆ
ต้นทุนเฉลี่ย 8,000 บาทต่อตารางเมตร
ลด Cost โดย ใช้ระบบพรีแคสต์ เข้ามาช่วยในการก่อสร้าง

i Condo by Property Perfect
ประเภท คอนโดมิเนียม
อาคาร 8 ชั้น ต้นทุน 17,000 บาทต่อตารางเมตร (สูงเกิน 8 ชั้น 20,000 บาทต่อตารางเมตร)

The Confidence by Q House
ประเภท คอนโดมิเนียม
ราคา 1-2 ล้านบาท
ลด Cost โดย ใช้ระบบพรีแฟบ (ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป) เข้ามาช่วยในการก่อสร้าง พร้อมเซ็นต์สัญญากับผู้รับเหมาล่วงหน้า 3 โครงการ ได้แก่ งามวงศ์วาน พัทยาใต้ นครปฐม

August Condominium เจริญกรุง 80
ประเภท คอนโดมิเนียม
อาคาร 8 ชั้น 700 ยูนิต 
ต้นทุนเฉลี่ย 16,000 บาทต่อตารางเมตร

Aspire Condominium by AP
ต้นทุนเฉลี่ย 13,000 บาทต่อตารางเมตร








ที่มา : ภาพจาก Internet
ที่มา : kobkid.com

Facebook Comment