อสังหาฯไตรมาส2แผ่วหลังหมดมาตรการรัฐ ( 08 June 2016 )
แมกโนเลีย-เอพี ระบุอสังหาฯ หลังสิ้นสุดมาตรการจูงใจภาครัฐ ตลาดแผ่ว หวังไตรมาส 3 "ยอดขาย-ยอดโอน" ขยับ
นายถนอมศักดิ์ แก้วเขียว รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์หลังเดือน เม.ย. ซึ่งสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ ในส่วนของการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอน และค่าจดจำนอง เหลือ 0.01% พบว่าภาพรวมของตลาดในแง่ยอดขายและยอดโอนลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่กำลังซื้อบางส่วน ในไตรมาส 2 ได้ถูกกระตุ้นให้ตัดสินใจซื้อ เร็วขึ้น
อย่างไรดี คอนโดมิเนียมแนวเส้นรถไฟฟ้าสายหลักอย่างบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน เอ็มอาร์ที ยังมียอดขายที่ดี เพราะเป็นทำเลศักยภาพ เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค สะท้อนจากยอดขายโคงการ วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดาลาดพร้าว มียอดขายแล้วมากกว่า 75% ขณะที่ โครงการคอนโดมิเนียม วิสซ์ดอม สเตชั่น รัชดา-ท่าพระ' ติดรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีตลาดพลู เปิดขายช่วงต้นปี มียอดขายแล้ว กว่า 90% โดยมีสัดส่วนลูกค้าเป็นลูกค้าคนไทย 98% ล่าสุดบริษัทจัดโปรโมชั่นส่วนลดทั้ง 2 โครงส่วน คาดจะสามารถปิดการขายได้ภายใน เดือนก.ค.นี้
คาดการณ์ว่าไตรมาส 3 ตลาดจะ ขยายตัว โดยคอนโดมิเนียมในทำเลที่ดี มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีองค์ประกอบโดดเด่นด้านทำเลที่ตั้ง เดินทางสะดวก ติดหรือใกล้สถานีรถไฟฟ้าหรือรถไฟฟ้าใต้ดินแบบเดินถึงในระยะใกล้ องค์ประกอบในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภายในโครงการและรอบบริเวณ ต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยของคนในยุคปัจจุบันต้องการสร้างสมดุลในการใช้ชีวิตและการทำงาน (work-life balance) แบบมีคุณภาพมากขึ้น
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการ ผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจ คอนโดมิเนียม 1และกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ โดยรวมในช่วงกลางไตรมาส 2 หลังสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ อาจ ชะลอไปบ้าง เนื่องจากลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านพร้อมเข้าอยู่ได้ถูกกระตุ้นและตัดสินใจซื้อไปในช่วงต้นในบางเซกเมนต์ เช่น บ้านในระดับกลาง-ล่าง
ทำให้ผู้ประกอบการต่างๆ ทำการตลาดเชิงรุกทั้งกิจกรรมการตลาด ส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อให้ลูกค้าอย่าง ต่อเนื่อง เพราะเห็นแล้วว่าได้ผลดี
"เป็นโอกาสที่ดีของผู้บริโภคในช่วง เวลานี้ ที่จะตัดสินใจเลือกซื้อบ้านในราคา ต้นทุนที่ไม่สูงมาก เพราะเชื่อว่าเมื่อ เศรษฐกิจกลับมาสดใสอีกครั้ง ราคาบ้าน จะปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนที่ดิน และวัสดุก่อสร้าง"
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, REIC